ลาฮูเปีย!คีนยิงทีมเก่า-หงส์นวดไก่3-1
"
หงส์แดง"ลิเวอร์พูลเล่นทื้งทวนแอนฟิลด์เพื่ออำลาซามี่ ฮูเปียที่ยุติชีวิต
10 ปีไปเล่นให้เลเวอร์คูเซ่นด้วยชัยชนะเหนือสเปอร์ส 3-1
จากประตูของเฟร์นานโด ตอร์เรส,เดิร์ก เคาท์และยอสซี่ เบนายูนโดยร็อบบี้
คีนยิงทีมเก่าได้อีกด้วย
พรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2552
ลิเวอร์พูล 3-1 สเปอร์ส
ประตู : 1-0 ตอร์เรส น.31,2-0 เคาท์ น.64,2-1 คีน น.77,3-1 เบนายูน น.81
ครึ่งแรก
เริ่ม
มาแค่ 2
นาทีเจ้าถิ่นได้เสียวประเดิมก่อนเลยหลังอลอนโซ๋พยายามจะหนีตัวประกบตรงหน้า
เขตโทษแต่เจอแซะบอลมาเข้าทางเจอร์ราร์ดวิ่งมายิงเหมือนตั้งให้บอลพุ่งโค้ง
และแรงเช็ดเพดานตาข่ายแบบเสียววาบ
จากนั้นอีก 3
นาทีต่อมาลิเวอร์พูลพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อลูกเตะมุมมาเสาสอง
เป็นสเคอร์เทลโขกตั้งกลับมาให้เบนายูนทิ้งตัววอลเลย์สุดสวยแต่โดนแป๊กเลยออก
หลังไปเศร้าๆ
คู่นี้ก็เล่นกันตามเชิงใครเปิดเกมรุกใส่อีกฝ่ายก็ลงมาตั้งรับกันเร็วโดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าถิ่นจะเป็นฝ่ายขึงเกมได้มากกว่า
นาที 22 สเปอร์สได้โอกาสสับไกครั้งแรกก็เสียวเลยเมื่อเอก็อตโต้ยิงไกลด้วยอีซ้ายแต่บอลเลียดไม่ห่างเรน่าที่รับไว้ค่อนข้างสบาย
บอล
คู่นี้ดูขำๆได้เพราะเล่นไม่ค่อยตื่นเต้นซักเท่าไหร่
เรียกว่าแนวรุกของ"หงส์แดง"พอบุกๆแล้วเหมือนไม่มีพิษสงอะไรสเปอร์สก็เริ่ม
ไล่เริ่มดันสู้แต่สุดท้ายก็ดำเนินไปแบบธรรมดา
พูดไม่ทันขาดคำนาที
31
ลิเวอร์พูลมาขึ้นนำง่ายๆจากลูกที่เอก็อตโต้เคลียร์บอลสาดไม่ดีแป๊กไปเข้าทาง
เจอร์ราร์ดที่ส่งต่อไปให้เคาท์ล็อกบอลแล้วโชว์ครอสด้วยอีซ้ายบอลพุ่งข้ามหัว
เซนเตอร์เป็นตอร์เรสที่โผล่มาโขกตรงเสาสองโล่งๆชนิดที่ฮัตตันวิ่งมาโหม่งชน
จากด้านหลังก็ยังไม่ทันบอลชนคานกระเด้งข้ามเส้นเข้าไป
นาที 42
"หงส์แดง"เกือบเสียประตูง่ายๆหลังลูกเปิดจากแดนหลังของเลดลีย์
คิงเป็นเดโฟวิ่งทแยงไม่ให้ตัวเองล้ำหน้าก่อนหลุดเข้าเขตโทษยังดีที่เรน่าออก
มาเร็วทำให้เดโฟพยายามจะดีดยิงสวนตัวแต่ติดบล็อกจอมหนึบหัวเหม่งที่กระโดด
เหมือนรู้ทันก่อนเคลียร์ทิ้งทันที
จากนั้นนาทีสุดท้ายเบนายูนได้โอกาสยิงปั่นไซด์หน้ากรอบโทษบอลพุ่งเฉี่ยวคานแบบได้เสียว
ครึ่งหลัง
"
หงส์แดง"มาเล่นแบบคุมโซนเพราะจะเน้นเก็บคลีนชีตทำให้สเปอร์สเป็นฝ่ายครองบอล
ทำเกมรุกได้ดีกว่าและนาที 57
เจ้าถิ่นรอดพ้นการเสียประตูอย่างหวุดหวิดหลังเบลปั่นฟรีคิกตรงหน้ากรอบ 20
หลายังดีที่บอลทะลุรูกำแพงที่เรน่ายืนส่องรอไว้อยู่แล้ว
อีก 6
นาทีต่อมาลูกเตะมุมของลิเวอร์พูลเกือบเป็นประตูเมื่อจังหวะชุลมุนเป็นสเคอร์
เทลที่ยิงอัดเต็มข้อแต่บอลแฉลบค่อยๆกลิ้งผ่านเสาไกลออกไป
แต่แล้ว
อีกไม่ถึงนาที"หงส์แดง"มาขึ้นนำ 2-0 เมื่อเบนายูนทำชิ่ง 1-2
กับเคาท์ก่อนที่แข้งอิสราเอลจะแตะคืนให้แข้งดูราเซลยิงในกรอบบอลเหมือนจะแป๊
กออกกรอบแต่ไปถูกขาฮันตันแฉลบเข้าประตูไปเลย
นาที 66
เจอร์ราร์ดเกือบยิงลูกที่ 17
ให้ตัวเองหลังเจอร์ราร์ดวิ่งแลบพักอกจากลูกที่เพื่อนวางข้ามเข้าเขตโทษมาให้
แต่ตอนยิงมุมแคบเลยหักซัดตรงระยะ 6
หลาด้านข้างบอลพุ่งทะลุโกเมสไปชนเสาไกลซะงั้น
นาที 74
เจอร์ราร์ดยังพยายามเร่งตุนสกอร์ให้ตัวเองต่อไปและหลังแอกเกอร์ฝากบอลมาให้
หน้าเขตโทษก่อนสลัดหนีตัวประกบจนได้วางเท้ายิงเหน่งๆหน้าเขตโทษแต่บอลกลับ
พุ่งเฉี่ยวเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ระดับหัวขิงลูกลักษณะนี้ต้องเข้ากรอบแล้ว
อีก 3
นาทีต่อมาคีนมายิงประตูทีมเก่าอย่างเลือดเย็นหลังโมดริชปั่นไซด์ก้อยในแดน
ตัวเองให้วิ่งหนีกับดักล้ำหน้าก่อนเลี้ยงไปดวลกับเรน่าตัวต่อตัวแบบมีเวลา
เหลือเฟือจนวางเท้ายิงอัดทะลุตัวเข้าไปสบายๆ
เจ้าตัวไม่ดีใจเป็นการให้เกียรติกันไป
อย่างไรก็ตามนาที 81
เจอร์ราร์ดเก็บตกบอลที่เพื่อนถูกสกัดก่อนรอให้เบนายูนวิ่งทำทางก่อนแทงตัด
หลังทะลุช่องให้เบนายูนวิ่งควบเข้าเขตโทษแล้วยิงแปเล่นทางลอดแขนโกเมสบ
อลค่อยๆกลิ้งเข้าไปง่ายๆ
อีก 3
นาทีต่อมาราฟาวางแผนมาทั้งสัปดาห์เพื่อเปลี่ยนเอาฮูเปียแทนเจอร์ราร์ดเพื่อ
ให้หัวขิงมอบแขนกัปตันทีมส่งต่อให้เป็นนัดสุดท้ายก่อนอำลาถิ่นแอนฟิลด์ซบเล
เวอร์คูเซ่นในซัมเมอร์นี้
ริเอร่าลงสนามมานี่เหมือนจะพยายามจะยิง
ประตูให้ได้ไม่รู้จะยิงสั่งลาหรือเปล่าโดยนาที 87
ลากเลื้อยมาเดี่ยวก่อนสับด้วยอีซ้ายบอลพุงผ่านหน้าเสาออกไปนิดเดียว
หมดเวลาลิเวอร์พูลเช็กบิลชนะ 3-1 ส่งท้ายอำลางานเลี้ยงให้ซามี่ ฮูเปียที่รับใช้สโมสรมาอย่างซื่อสัตย์ตลอด 10 ปีอย่างยิ่งใหญ่
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิ
เวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,มาร์ติน
สเคอร์เทล,ฟาบิโอ ออเรลิโอ,ชาบี้ อลอนโซ่,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,เดิร์ก
เคาท์(ริเอร่า น.64),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด(ฮูเปีย น.84),ยอสซี่
เบนายูน,เฟร์นานโด ตอร์เรส(เอ็นก็อก น.79)
สำรองไม่ได้ลงสนาม : คาวาเลียรี่,ลูคัส,อินซัว,เดเก้น
สเปอร์ส
: เอเรลโญ่ โกเมส,อลัน ฮัตตัน,เวดราน ชอร์ลูก้า ,เลดลีย์ คิง,เบน็อต อัสซู
เอก็อตโต้,ฃูก้า โมดริช,ดิดิเยร์ โซโกร่า,เจอร์เมน จีนาส(เบนท์ลีย์
น.40),แกเรธ เบล(เบนท์ น.79),เจอร์เมน เดโฟ(พาฟลูเชนโก้ น.70),ร็อบบี้ คีน
สำรองไม่ได้ลงสนาม : คูดิชินี่,คริส กุนเทอร์,แคมป์เบลล์,ชิมบงด้า
ที่มา soccersuck
"
หงส์แดง"ลิเวอร์พูลเล่นทื้งทวนแอนฟิลด์เพื่ออำลาซามี่ ฮูเปียที่ยุติชีวิต
10 ปีไปเล่นให้เลเวอร์คูเซ่นด้วยชัยชนะเหนือสเปอร์ส 3-1
จากประตูของเฟร์นานโด ตอร์เรส,เดิร์ก เคาท์และยอสซี่ เบนายูนโดยร็อบบี้
คีนยิงทีมเก่าได้อีกด้วย
พรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม 2552
ลิเวอร์พูล 3-1 สเปอร์ส
ประตู : 1-0 ตอร์เรส น.31,2-0 เคาท์ น.64,2-1 คีน น.77,3-1 เบนายูน น.81
ครึ่งแรก
เริ่ม
มาแค่ 2
นาทีเจ้าถิ่นได้เสียวประเดิมก่อนเลยหลังอลอนโซ๋พยายามจะหนีตัวประกบตรงหน้า
เขตโทษแต่เจอแซะบอลมาเข้าทางเจอร์ราร์ดวิ่งมายิงเหมือนตั้งให้บอลพุ่งโค้ง
และแรงเช็ดเพดานตาข่ายแบบเสียววาบ
จากนั้นอีก 3
นาทีต่อมาลิเวอร์พูลพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อลูกเตะมุมมาเสาสอง
เป็นสเคอร์เทลโขกตั้งกลับมาให้เบนายูนทิ้งตัววอลเลย์สุดสวยแต่โดนแป๊กเลยออก
หลังไปเศร้าๆ
คู่นี้ก็เล่นกันตามเชิงใครเปิดเกมรุกใส่อีกฝ่ายก็ลงมาตั้งรับกันเร็วโดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าถิ่นจะเป็นฝ่ายขึงเกมได้มากกว่า
นาที 22 สเปอร์สได้โอกาสสับไกครั้งแรกก็เสียวเลยเมื่อเอก็อตโต้ยิงไกลด้วยอีซ้ายแต่บอลเลียดไม่ห่างเรน่าที่รับไว้ค่อนข้างสบาย
บอล
คู่นี้ดูขำๆได้เพราะเล่นไม่ค่อยตื่นเต้นซักเท่าไหร่
เรียกว่าแนวรุกของ"หงส์แดง"พอบุกๆแล้วเหมือนไม่มีพิษสงอะไรสเปอร์สก็เริ่ม
ไล่เริ่มดันสู้แต่สุดท้ายก็ดำเนินไปแบบธรรมดา
พูดไม่ทันขาดคำนาที
31
ลิเวอร์พูลมาขึ้นนำง่ายๆจากลูกที่เอก็อตโต้เคลียร์บอลสาดไม่ดีแป๊กไปเข้าทาง
เจอร์ราร์ดที่ส่งต่อไปให้เคาท์ล็อกบอลแล้วโชว์ครอสด้วยอีซ้ายบอลพุ่งข้ามหัว
เซนเตอร์เป็นตอร์เรสที่โผล่มาโขกตรงเสาสองโล่งๆชนิดที่ฮัตตันวิ่งมาโหม่งชน
จากด้านหลังก็ยังไม่ทันบอลชนคานกระเด้งข้ามเส้นเข้าไป
นาที 42
"หงส์แดง"เกือบเสียประตูง่ายๆหลังลูกเปิดจากแดนหลังของเลดลีย์
คิงเป็นเดโฟวิ่งทแยงไม่ให้ตัวเองล้ำหน้าก่อนหลุดเข้าเขตโทษยังดีที่เรน่าออก
มาเร็วทำให้เดโฟพยายามจะดีดยิงสวนตัวแต่ติดบล็อกจอมหนึบหัวเหม่งที่กระโดด
เหมือนรู้ทันก่อนเคลียร์ทิ้งทันที
จากนั้นนาทีสุดท้ายเบนายูนได้โอกาสยิงปั่นไซด์หน้ากรอบโทษบอลพุ่งเฉี่ยวคานแบบได้เสียว
ครึ่งหลัง
"
หงส์แดง"มาเล่นแบบคุมโซนเพราะจะเน้นเก็บคลีนชีตทำให้สเปอร์สเป็นฝ่ายครองบอล
ทำเกมรุกได้ดีกว่าและนาที 57
เจ้าถิ่นรอดพ้นการเสียประตูอย่างหวุดหวิดหลังเบลปั่นฟรีคิกตรงหน้ากรอบ 20
หลายังดีที่บอลทะลุรูกำแพงที่เรน่ายืนส่องรอไว้อยู่แล้ว
อีก 6
นาทีต่อมาลูกเตะมุมของลิเวอร์พูลเกือบเป็นประตูเมื่อจังหวะชุลมุนเป็นสเคอร์
เทลที่ยิงอัดเต็มข้อแต่บอลแฉลบค่อยๆกลิ้งผ่านเสาไกลออกไป
แต่แล้ว
อีกไม่ถึงนาที"หงส์แดง"มาขึ้นนำ 2-0 เมื่อเบนายูนทำชิ่ง 1-2
กับเคาท์ก่อนที่แข้งอิสราเอลจะแตะคืนให้แข้งดูราเซลยิงในกรอบบอลเหมือนจะแป๊
กออกกรอบแต่ไปถูกขาฮันตันแฉลบเข้าประตูไปเลย
นาที 66
เจอร์ราร์ดเกือบยิงลูกที่ 17
ให้ตัวเองหลังเจอร์ราร์ดวิ่งแลบพักอกจากลูกที่เพื่อนวางข้ามเข้าเขตโทษมาให้
แต่ตอนยิงมุมแคบเลยหักซัดตรงระยะ 6
หลาด้านข้างบอลพุ่งทะลุโกเมสไปชนเสาไกลซะงั้น
นาที 74
เจอร์ราร์ดยังพยายามเร่งตุนสกอร์ให้ตัวเองต่อไปและหลังแอกเกอร์ฝากบอลมาให้
หน้าเขตโทษก่อนสลัดหนีตัวประกบจนได้วางเท้ายิงเหน่งๆหน้าเขตโทษแต่บอลกลับ
พุ่งเฉี่ยวเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ระดับหัวขิงลูกลักษณะนี้ต้องเข้ากรอบแล้ว
อีก 3
นาทีต่อมาคีนมายิงประตูทีมเก่าอย่างเลือดเย็นหลังโมดริชปั่นไซด์ก้อยในแดน
ตัวเองให้วิ่งหนีกับดักล้ำหน้าก่อนเลี้ยงไปดวลกับเรน่าตัวต่อตัวแบบมีเวลา
เหลือเฟือจนวางเท้ายิงอัดทะลุตัวเข้าไปสบายๆ
เจ้าตัวไม่ดีใจเป็นการให้เกียรติกันไป
อย่างไรก็ตามนาที 81
เจอร์ราร์ดเก็บตกบอลที่เพื่อนถูกสกัดก่อนรอให้เบนายูนวิ่งทำทางก่อนแทงตัด
หลังทะลุช่องให้เบนายูนวิ่งควบเข้าเขตโทษแล้วยิงแปเล่นทางลอดแขนโกเมสบ
อลค่อยๆกลิ้งเข้าไปง่ายๆ
อีก 3
นาทีต่อมาราฟาวางแผนมาทั้งสัปดาห์เพื่อเปลี่ยนเอาฮูเปียแทนเจอร์ราร์ดเพื่อ
ให้หัวขิงมอบแขนกัปตันทีมส่งต่อให้เป็นนัดสุดท้ายก่อนอำลาถิ่นแอนฟิลด์ซบเล
เวอร์คูเซ่นในซัมเมอร์นี้
ริเอร่าลงสนามมานี่เหมือนจะพยายามจะยิง
ประตูให้ได้ไม่รู้จะยิงสั่งลาหรือเปล่าโดยนาที 87
ลากเลื้อยมาเดี่ยวก่อนสับด้วยอีซ้ายบอลพุงผ่านหน้าเสาออกไปนิดเดียว
หมดเวลาลิเวอร์พูลเช็กบิลชนะ 3-1 ส่งท้ายอำลางานเลี้ยงให้ซามี่ ฮูเปียที่รับใช้สโมสรมาอย่างซื่อสัตย์ตลอด 10 ปีอย่างยิ่งใหญ่
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิ
เวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,มาร์ติน
สเคอร์เทล,ฟาบิโอ ออเรลิโอ,ชาบี้ อลอนโซ่,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,เดิร์ก
เคาท์(ริเอร่า น.64),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด(ฮูเปีย น.84),ยอสซี่
เบนายูน,เฟร์นานโด ตอร์เรส(เอ็นก็อก น.79)
สำรองไม่ได้ลงสนาม : คาวาเลียรี่,ลูคัส,อินซัว,เดเก้น
สเปอร์ส
: เอเรลโญ่ โกเมส,อลัน ฮัตตัน,เวดราน ชอร์ลูก้า ,เลดลีย์ คิง,เบน็อต อัสซู
เอก็อตโต้,ฃูก้า โมดริช,ดิดิเยร์ โซโกร่า,เจอร์เมน จีนาส(เบนท์ลีย์
น.40),แกเรธ เบล(เบนท์ น.79),เจอร์เมน เดโฟ(พาฟลูเชนโก้ น.70),ร็อบบี้ คีน
สำรองไม่ได้ลงสนาม : คูดิชินี่,คริส กุนเทอร์,แคมป์เบลล์,ชิมบงด้า
ที่มา soccersuck